ณ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีชาวนาคนหนึ่งเลี้ยงลาไว้ตัวหนึ่งซึ่งแก่มากแล้ว วันหนึ่งชาวนาได้พา
เจ้าลาแก่ออกไปข้างนอก ...
ด้วยความโง่เขลาของมันดันเดินซุ่มซ่ามไปตกบ่อแห่งหนึ มันร้องครวญคราง
เป็นเวลาหลายเพลา ชาวนาเองก็พยายามใคร่ครวญหาวิธีที่จะช่วยมันขึ้นมา
ในที่สุดชาวนาหวนคิดขึ้นมาได้ว่า
เจ้าลาก็แก่เกินไปแล้วอีกอย่างบ่อนี้ก็ต้องกลบ
ไม่คุ้มที่จะช่วยเจ้าลา ชาวนาจึงไปขอแรงชาว บ้านเพื่อมาช่วยกลบบ่อ
ทุกคนใช้พลั่วตักดินสาดลงไปในบ่อ ครั้งแรกเมื่อดินไป
ถูกหลังลามันตกใจและรู้ชะตากรรมของตนทันที มันร้องโหยหวนทันที
สักพักหนึ่งทุกคนก็แปลกใจที่เจ้าลาเงียบ หลังจากที่ชาวนาตัก
ดินใส่ไปในบ่อได้สัก สองสามพลั่วก็เหลือบมองลงไปในบ่อ
ก็พบกับความประหลาดใจที่ว่า ...
ทุกครั้งที่ทุกคนสาดดินไปถูกหลังลามันจะสะบัดดินออกจากหลัง
แล้วก้าวขึ้นไปเหยียบบนดินเหล่านั้น ยิ่งทุกคนพยายาม
เร่งระดมสาดดินลงไปมากเท่าไรมันก็ก้าวขึ้นมาได้เร็วมากยิ่งขึ้น
ในไม่ช้าทุกคนต่างประหลาดใจที่เจ้าลา
ในที่สุดก็สามารถหลุดพ้นจากปากบ่อดังกล่าวได้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ชีวิตนี้อุปสรรคต่างๆ
ที่ถาโถมเข้ามาหาเราก็เปรียบเสมือนดินที่สาดเข้า มาหาเรา
จงอย่าท้อถอยและยอมแพ้จงแก้ไขมัน
เพื่อที่เราจะได้เหยียบมันเพื่อที่จะก้าวสูงขึ้นเรื่อยๆ
เปรียบเสมือนลาแก่ที่หลุดพ้นจากบ่อได้ฉันใดฉันนั้น
วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ชาวนากับลาแก่
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น